สวัสดีค่ะ วันนี้เมธ์ก็อยากจะมาแชร์ประสบการณ์การเรียกรถฉุกเฉินในเกาหลีนะคะ
สำหรับคนที่อยู่ตปท เบอร์ฉุกเฉินต่างๆเราจำเป็นที่จะต้องจำให้ขึ้นใจไว้เลยนะคะ
เพราะบางทีเวลาเราเกิดเหตุด่วนขึ้นมาจะได้กดไปอย่างทันท่วงที่ค่ะ
ตอนนี้เมธ์ก็อยู่เกาหลีมาประมาณ 5 ปีแล้ว และเคยเรียกรถฉุกเฉินมาทั้งหมด 2 ครั้ง
ครั้งแรกสุดเลยคือนั่งเอาส้มให้ซอจินกิน แล้วอยู่ๆเขาก็ทำท่าเหมือนสำลักอาหาร อาหารติดคอ
เราก็แบบตกใจมาก เลยพยายามจะล้วงเข้าไปในคอ แล้วมันไม่มีอะไรออกมา
ก็ตกใจมากกก รีบโทรหาฉุกเฉินทันที แบบรนรานมากๆ คุยแบบบอกเขาไปว่าเนี่ยๆ
เด็กกินส้มเข้าไปเหมือนจะติดคอเลย เสร็จแล้วเขาก็ถามที่อยู่เรา ซึ่งบอกเลยว่า
ภาษาเกาหลีที่เรียนมาจากมหาลัยเอย ประสบการณ์ล่ามบ้าบอ เกือบสิบปี
ไม่เกิดประโยชน์เลย!!! เวลาคนเราไม่มีสติ เพราะบอกที่อยู่บ้านตัวเองไม่ถูกเลย
แต่ทางฉุกเฉินก็แบบ เนี่ย เดี๋ยวเราจะส่งรถไปเลยนะ แล้วก็วางสายไป
เราก็พยายามดูลูกไป แต่ตอนนั้นซอจินเขาก็ร้องไห้ๆนะ จากนั้นก็มีเบอร์โทรมาอีก
จากจนท.ฉุกเฉิน เขาก็ถามเราว่าเป็นยังไง อาการอะไร เสียงที่ร้องอยู่ใช่เด็กที่เราคิดว่าอาหารติดคอรึเปล่า
เราก็แบบยังตกใจอยู่ แต่ก็แบบใช่ๆค่ะๆ สรุปก็คือ ถ้าเด็กยังร้องได้ก็คือ ไม่ต้องกังวลมาก
น่าจะแค่สำลักอาหารแล้วตกใจ เคสนั้นก็เคลียร์จบไปโดยไม่ต้องถึงขึ้นรถฉุกเฉิน
แล้วเวลาก็ผ่านมาจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว โอป้าก็บอกว่าเนี่ยอยู่ๆ ก็เจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก
บล้าๆ เราก็คิดว่ามึงเว่อร์เปล่าาาา ปกติเป็นพวกโอเวอร์แอคติ้งอยู่แล้ว ก็ฟังๆไว้เฉยๆ
จนผ่านมาได้สักสองวัน อยู่ๆกลางคืน เขาก็แบบเจ็บหน้าอก
เรียกแล้วก็แบบเหมือนนางไม่สนใจ บอกอย่าเรียก หนวกหู อารมณ์เหมือนคนปวดมากๆ ไม่มีสมาธิใดๆแล้ว
เราก็แบเอ๊ะยังไงดีๆ จนผ่านไปเป็นสิบนาทีอ่ะ จริงๆตรงนี้น่ากลัวมาก เมธ์ปล่อยเวลานานไปอ่ะ
กว่าจะเรียกฉุกเฉิน โชคดีที่โอป้าไม่เป็นอะไรมาก
หากเป็นแบบเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือเส้นเลือดสมองแตก แกอาจจะไปแล้วก็ได้
เป็นอุทาหรณ์สุดๆ ถ้าอาการคนที่เราดูไม่เวิร์ค เรียกรถฉุกเฉินเลย อย่าไปสนใจเสียงเจ้าตัว
หลังจากที่โทรไป จนทก็รับสายไวมาก
เราก็แจ้งไปว่า สามีเจ็บหน้าอกมาก ช่วยมารับหน่อย
จนทเขาก็ถามประมาณว่า คนที่เจ็บยังพูดได้ไหม ยังรับรู้ไหม เขาเจ็บแบบไหนอะไรประมาณนี้
เราก็ตอบคำถามเขาไปแบบ เออ ไม่รู้เหมือนกัน แต่เหมือนเขาเจ็บหน้าอกมากๆ ตอนนี้ยังหายใจอยู่
ยังมีสติตอบรับได้ บ้านอยู่ที่นี้ๆค่ะ
ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทวนที่อยู่ว่าอยู่ตรงนี้นะๆ (ตรงนี้สติสำคัญมาก บอกที่อยู่ให้ชัดเจน เขาจะได้ไม่ต้องมาเช็คสัญญาณจีพีเอสเราอีก)
แล้วเหมือนเจ้าหน้าที่เขาก็แบบกำลังส่งคนไปนะ บล้าๆๆ
หลังจากวางสายไปแปบนึง โอป้าก็มีอาการที่ดีขึ้น แล้วจนทจากรถฉุกเฉินก็โทรมา
เลยให้แกคุยสายเอง เมธ์ก็เดินไปเปิดประตูบ้านไว้ และเห็นว่ารถฉุกเฉินเขามาไวมาก
ไม่เกิน7 8 นาทีเขาก็มาถึงแล้วอ่ะ (แต่อย่างว่า ตอนตี 2 กว่าๆแล้วอ่ะ บวกกับ แถวบ้านเมธ์มีรพใหญ่
อยู่ถ้านั่งรถแบบไม่ติดน่าจะไม่เกิน 15นาที)
แกก็ขึ้นรถฉุกเฉินไป
เอาจริงๆคือตกใจมากๆ แต่ก็แบบหลังจากเกิดเรื่องซอจิน เราก็คิดไว้ตลอดว่า
เราต้องมีสตินะ ไม่งั้นมันจะช้ามาก โดยเฉพาะจังหวะการบอกที่อยู่
ส่วนตอนนี้ผ่านมาสองสามเดือนโอป้าก็อาการดีขึ้นไม่มีปัญหาอะไร แต่หลังจากที่ไปเช็คที่รพ
ไม่เกินอาทิตย์แกขับรถไปบริษัทก็เกิดเจ็บหน้าอกขึ้นมาอีก ได้ขึ้นรถฉุกเฉินไปอีกรอบ
คราวนี้ได้เข้าไปเช็คที่รพ.มหาวิทยาลัย ได้ยาได้อะไรมา
ตอนนี้ก็ปกติดีอยู่ค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น