คราวนี้กลับมาอยู่ห้องพักแล้ว โชคดีมากที่ 2 คืนแรก
ไม่มีคนมาอยู่ด้วยก็นอนแบบสบายย
แต่พอมีคนมาอยู่ด้วยก็แบบแอบเกรงใจ เพราะเรามีลูกคนโตด้วย
สังเกตมาหลายครั้งแล้ว คนเกาหลีค่อนข้างที่จะใจกว้างกับเด็กพอสมควรนะ
คือเขาไม่ค่อยจะรำคาญเด็กสักเท่าไหร่ ถึงขนาดที่เขาหันมาบอกเราว่า
เออ ไม่ต้องบอกให้เด็กเสียงเบาตลอดก็ได้นะคะ เขาเข้าใจธรรมชาติเด็ก
เดี๋ยวถ้าเขาจะนอนหรือ อะไร เขาเอาหูฟัง กับที่อุดหูมา ไม่ต้องเกรงใจเขามาก
แล้วคือไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวนะ คือ ทุกคนที่มาพักด้วยกัน พูดแบบนี้หมด
ฟังแล้วขอบคุณเขามากๆ
หลังจากขึ้นมานอนพักที่ห้องก็รู้สึกว่ามันปวดแผล ก็ทนๆไปก่อนจนแบบ
ไปเมสเสจคุยกับน้องเวียดนามที่รู้จักกันตอนมานอนรพครั้งที่แล้ว
น้องเขาคลอดก่อนเมธ์สักอาทิตย์สองอาทิตย์ได้
น้องก็บอกเนี่ยๆออนนี่ถ้าปวดมากก็ขอยาเขาได้เลย
เราก็แบบยาแก้ปวดอ่ะเหรอ น้องก็ตอบมาใช่ๆ
พอตอนกลางคืนก่อนจะนอนขอยาไป ได้ตามคำขอเลย
ยาแก้ปวดแบบฉีด บ้าบอ นึกว่าจะได้ยากิน.....
วันแรกจำไม่ค่อยได้แน่ชัดแล้วว่าโดนฉีดยาอะไรไปบ้าง
แต่เหมือนจะมียาที่มันจะกระตุ้นให้มดลูกมันเข้าอู่เร็วขึ้นประมาณนั้น
แล้วอิสายน้ำเกลือก็ยังมีอยู่ แต่พอวันที่สองเขาก็เอาออกให้เลย
ส่วนลูกวันแรกเขาจะยังไม่ได้โทรมาเรียกให้ลงไปให้นม
คือเท่าที่สังเกตคือ ถ้าเป็นห้องรวมเขาจะไม่ให้เอาลูกขึ้นมาเอง
แต่ถ้าเป็นห้องเดี่ยว ไม่แน่ใจว่าเอาไปเลี้ยงในห้องได้ไหม
หลายคนอาจจะไม่ชอบใจว่าแบบทำไมแยกลูกชั้นไป
แต่บอกเลยว่าเก็บเกี่ยวช่วงเวลาส่วนตัวนี้ของคุณเอาไว้
เพราะเมื่อกลับบ้านเมื่อไหร่ ชีวิตคุณจะเปลี่ยนไปตลอดกาลลล
ชีวิตส่วนตัวจะไม่มีอีกต่อไป ลูกน้อยจะอยู่ในทุกๆวัน ทุกๆลมหายใจของเรา
ช่วงหลังคลอดก็จะไม่ค่อยมีอะไรมาก ก็จะมีให้หมอลงไปล้างแผลที่เย็บ
หรือฝีเย็บทุกวัน แล้วคือเจ็บมากกก เป็นความทรมาณในทุกๆวัน
คือถ้าใครไม่เคยคลอดธรรมชาติอาจจะยังไม่รู้ว่ามันจะมีแผลที่หมอจะกรีดตรงข้างๆ
ช่องคลอดแบบนี้ เพราะหัวเด็กมันจะออกมาได้ง่ายขึ้น
ซึ่งพอกรีดออกมาแล้วก็ต้องเย็บ ทีนี้หมอก็จะล้างแผลให้ตรงฝีเย็บ และด้านในช่องคลอด
แล้วอยู่รพไป. 6 วัน พยาบาลก็จะโทรมาเรียกช่วงคุณหมอว่าง ให้ลงไปทำความสะอาดแผล
นอกจากนี้ก็จะมีให้เราสามารถไปฉายแสงเลเซอร์ลดอาการบวมของแผล
บวกกับนอนนวดหลังได้ทุกวันละครั้ง ยกเว้นวันอาทิตย์
หน้าตาห้องก็จะประมาณนี้ จริงๆคือห้องเขาดูดีมากเลยนะ
แต่กล้องมือถือเมธ์ห่วยเอง 555
แล้วก็มีให้ใช้ 좌욕실 (ชวายกชิล) หน้าตามันจะเหมือนโถส้วม
มันจะเป็นอ่างน้ำรองแบบนี้ แล้วก็จะมีน้ำอุ่น และแสงแดงๆออกมา(ไม่รู้เรียกแสงอะไร? เลเซอร์ ยูวี??)
เขาว่ามันจะช่วยให้เลือดมาเลี้ยงตรงแผลเยอะ แล้วแผลมันจะหายไวขึ้น
พยาบาลจะแนะนำให้ไปทำ สองครั้งต่อวัน
โถนี้พอกดปุ่มแล้วมันจะมีน้ำอุ่นๆร้อนๆออกมา พร้อมแสงสีแดง แล้วก็มีเหมือนฟองอากาศฝุดๆขึ้น
หลังจากนั้นมันก็จะล้างแล้วแช่น้ำอุ่นอีกรอบ หลังจากแช่เรียบร้อย มันก็จะมีลมร้อนเป่าให้อีก
เราจะรู้สึกว่าแผลสะอาดและแห้งดีมาก อยากจะมาหลังเข้าห้องน้ำเสร็จมากๆ แผลจะได้ไม่อับชื้น 55
จำได้ว่าครั้งที่แล้วหลังจากคลอดเสร็จ แล้วเรานั่งๆเดินๆไม่ดี สรุปแผลปริ ต้องเย็บใหม่
ครั้งนี้เลยวิตกจริตแรงๆ กลัวแผลปริ แผลเน่ามาก คือไม่อยากไปทำแผลใหม่
ด้านบนก็เป็นรูปอาหารในทุกๆมื้อของโรงพยาบาล สำหรับคุณแม่เพิ่งคลอดนั้นทุกๆวัน
ก็จะมีซุปสาหร่าย หรือภาษาเกาหลีเรียกว่ามียอกกุก มาเสริฟตลอด
เพราะเขาว่าจะช่วยทำให้มีน้ำนมเยอะขึ้น ถ้าใครอยากเห็นหน้าตาอาหารมากกว่านี้
สามารถไปดูได้จากบทความตอน ประสบการณ์นอนรพในเกาหลีได้เลยนะคะ
สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดของเมธ์ และลูกคนที่สอง
ของเมธ์ที่เป็นแม่ก็จะมีค่าห้อง 4 คืน 5วัน ค่ายา ค่าหมอใดๆ เบ็ดเสร็จอยู่ที่ 1,840,000 กว่าวอน
แต่เนื่องจากมีประกันสุขภาพของรัฐ(มีวีซ่า) ก็จะจ่ายจริงทั้งหมด 466,000 วอน
ถ้าตีเป็นเงินไทยก็สัก 15,000 บาทได้
ส่วนของลูกก็จะมีใช้จ่ายเหมือนกันรวมทั้งหมด 614,000 วอน
แต่ประกันสุขภาพออกเลยจ่ายจริงแค่ 260,500 วอน
แล้วมีค่าตรวจความผิดปรกติทางพันธุกรรม250,000วอน
ซึ่งถ้าเราเลือกไม่ตรวจ ของลูกเราจะออกแค่ 10,500 วอน หรือประมาณ 300 บาทเท่านั้น
ถือว่าสวัสดิการของประเทศเกาหลีดีมากๆเลย
ติดตามเรื่องขิงข่า มีสาระบ้างไม่มีสาระบ้างเกี่ยวกับชีวิตในเกาหลี
https://www.facebook.com/seojiniimom
หรือใครอยากติดตามเรื่องน้องซอจินในเกาหลีก็ติดตามได้ที่
https://www.facebook.com/seojinthelittlemonkey
และยูทูป สามารถติดตามได้ที่
https://www.youtube.com/SeojinMom
ขอบคุณทุกๆคนที่ติดตาม กดไลค์ กดแชร์ทุกคนนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น