ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แชร์ประสบการณ์เตรียมตัวสอบ TOPIK อย่างไรให้ได้คะแนนดี

สวัสดีค่า~

จากที่เมธ์เขียนไว้ใน blog ก่อนหน้านี้

เรื่องการสอบวัดระดับภาษาเกาหลี หรือว่า TOPIK (โทปิค) คร่าวๆแล้ว

รอบนี้เมธ์ก็เลยอยากจะมาแชร์วิธีการเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนดีๆ

ตามแบบฉบับของเมธ์นะคะ

ก็ต้องขอเกริ่นก่อนว่าเมธ์มีประสบการณ์การสอบ TOPIK มาไม่น้อยเลยทีเดียว

ก็สักประมาณ 6-7 ครั้งได้ นับตั้งแต่เรียนปี 2 จนถึงตอนนี้ก็ 11 ปีได้

เฉลี่ยก็ 2 ปีสอบ 1 ครั้ง

ก็เก็บระดับมาได้กึบ 2 กึบ 4 และรอบปีที่ผ่านมาก็ได้ กึบ 6 เป็นปีแรก TT

แล้วทุกการสอบก็ใช่ว่าจะผ่านทุกครั้งนะ

ตอนปี4 เพื่อนผ่านกึบ 4 หมดเลยที่มาแลกเปลี่ยนด้วยกันที่เกาหลี

แต่มีเมธ์คนเดียวที่นอกจากจะไม่ผ่านกึบ 4 กึบ3ก็คะแนนไม่ถึงเกณฑ์....

เสียเซลฟ์มากเว่อร์ แล้วสมัยก่อนที่ไทยมีสอบวัดระดับปีละ 1 ครั้ง

ถ้าปีนี้ไม่ผ่าน เราก็ต้องรอไปสอบใหม่อีกปี

หลังจากบ่นภูมิหลังอันน่าสลดใจของตัวเองแล้วเราก็มาเข้าเรื่องกันดีกว่า

อย่างแรกเลยคือเราต้องตั้งเป้าหมายก่อนว่าเราอยากได้กึบไหน

สมมติเมธ์ตั้งเวลาปีนี้เมธ์อยากได้กึบ 6

เราก็มาดูว่าคะแนนที่จะได้กึบ 6 คือเท่าไหร่

ซึ่งในปีนี้ คนที่จะได้กึบ 6 จะต้องได้คะแนน 230 คะแนนขึ้นไป เต็ม 300 คะแนน

เมื่อเรารู้คะแนนคร่าวๆที่เราจะต้องทำให้ได้แล้ว

เราก็มาคำนวนว่า เราจะสามารถผิดได้กี่คะแนนกี่ข้อ

สำหรับกึบ 6 เราจะผิดได้ 70 คะแนน

ในข้อสอบ TOPIK II มันจะมี พาร์ทการฟัง การอ่าน และการเขียน

การฟัง กับการอ่านเป็นข้อตัวเลือก ข้อละ 2 คะแนน ถ้าจำไม่ผิดนะ

และการเขียน จะมีทั้งหมด 3 ข้อ คือข้อ 20 คะแนน 30คะแนน และ 50คะแนน

ซึ่งถ้าไม่ใช่คนเขียนเก่งๆ เขียนไวๆ คนส่วนใหญ่มักจะทำข้อเขียนเสร็จไม่ทัน

เพราะฉะนั้นเราก็ต้องคำนวนในส่วนนี้ด้วยว่าข้อเขียน 3 ข้อ เราจะได้เท่าไหร่

อย่างเมธ์คือคำนวนว่าจะได้คะแนนข้อเขียนแค่ 50คะแนน

ทำให้เมธ์ต้องทำพาร์ทฟัง และอ่านให้ได้ 180 คะแนนขึ้นไป -0-

เท่ากับว่าเฉลี่ยพาร์ทฟัง และอ่านต้องได้ 90 คะแนนอย่างต่ำ

เขียนเองยังแบบความหวังเลือนลาง

แต่อย่าไปกลัว ถึงจะพลาดกึบ 6 เราก็อาจจะได้กึบ 5 ก็ได้

เมื่อคำนวนคะแนนคร่าวๆของเป้าหมายเราเรียบร้อยแล้ว

ก็มาถึงขั้นตอนการอ่านหนังสือ

วิธีการเตรียมสอบที่ดีที่สุด ไม่ใช่การไปนั่งอ่านหนังสือเรียน

แต่เป็นการนั่งทำข้อสอบเก่าๆ

เราสามารถไปปริ๊นข้อสอบเก่าๆได้ในเว็บ www.topik.go.kr


วิธีการทำข้อสอบ ก็แล้วแต่เวลาที่เรามี และสไตล์การอ่านหนังสือของเรา

จะจับเวลาก็ได้ ไม่จับเวลาแล้วค่อยๆทำก็ได้

เมื่อทำข้อสอบเสร็จ เราก็เอามาตรวจ ข้อไหนผิด ข้อไหนมั่วแต่ถูก

ศัพท์ไหนที่ไม่รู้ก็นำมาเปิดหาศัพท์ไป

ยิ่งเราทำมากเท่าไหร่ เราจะชินกับศัพท์ และไวยากรณ์มากขึ้น

เพราะไวยากรณ์ และคำศัพท์ที่ใช้ก็จะเดิมๆวนๆไป


ส่วนการเขียนก็จะให้ใช้คำศัพท์ และไวยากรณ์ ที่เหมาะสมกับระดับ

คือไม่จำเป็นต้องศัพท์ยากมาก แต่ต้องเป็นคำศัพท์ และไวยากรณ์ที่เหมาะสมในประโยค


ทั้งหมดก็เป็นวิธีการเตรียมตัวสอบที่ได้ผลมากสำหรับเมธ์นะคะ

ตอนแรกก็กะว่า เออ ได้กึบ 5 ก็พอใจล่ะ แต่พอผลออกมา

ถึงจะผ่าน 230 มาไม่กี่คะแนน แต่ก็แบบเออ ก็ถือว่าพอใจอยู่นะ

เพราะเมธ์ก็ไม่ได้อ่านจริงจังแบบวันนึงสามสี่ชม.

อ่าน และทำข้อสอบแค่วันละไม่เกิน 2 ชม.

ใครกำลังจะเตรียมตัวสอบสามารถลองเอาวิธีของเมธ์ไปใช้กันได้นะคะ :)








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เพลง AEIOU ในภาษาเกาหลี จาก Squid Game

 ช่วงนี้ ซีรี่ย์ Squid Game หรือ 오징어 게임 จาก Netflix ก็เป็นกระแสนิยมมากๆ ในหลายๆประเทศก็สร้างกระแสให้การเล่นของเด็ก กับ ขนมน้ำตาล  Dalgona ก็ฮิตเฉยเลย วันนี้เมธ์เลยจะมาเขียนเนื้อเพลง AEIOU เวอร์ชั่นเกาหลีเป็นคาราโอเกะ เพื่อใครอยากจะเอาเป็นเล่นกันนะคะ    AEIOU ในเวอร์ชั่นภาษาเกาหลี จะร้องว่า “무궁화꽃이 피었습니다.” อ่านว่า มู-กุง-ฮวา-โก-ชี  พี-ออด-ซึม-นี-ดะ   ซึ่งคำแปลก็ไม่ได้มีความหมายประหลาดอะไรเลย แค่แปลว่า “ดอกมูกุงฮวาบานแล้ว” ดอกมูกุงฮวาเป็นดอกไม้ประจำชาติของเกาหลี หน้าตาของดอกมูกุงฮวาก็จะคล้ายๆกับดอกชบา ลองเสิร์ซดูเขาว่ามันเรียกเป็นภาษาไทยว่าเป็น ชบาจีน จริงๆอยากจะลงรูปให้ดู  แต่ดันไม่มีรูปที่ถ่ายเองเลย ;;  ยังไงทุกคนลองจำไปเล่นกับเพื่อนดูได้เลยนะคะ  เห็นต่างชาติอัพลงใน ยูทูป ติ๊กต็อก กันเยอะมากๆ  ส่วนเมธ์ก็ขอตัวไปเล่นกับลูกแล้วกันนะคะ ชวนเล่นทั้งวันตั้งแต่ก่อนเจ้า  Squid Game จะดังอีกก 

ภาษาเกาหลีวันละคำ by Seojinmom : เหงา ภาษาเกาหลีใช้คำว่าอะไร

ฝากกดติดตาม  FB : เรื่องเล่าจากเกาหลี by Seojinmom และ  Youtube Channel : Seojinmom  ไว้ด้วยนะคะ :) ภาษาเกาหลีวันละคำ by Seojinmom วันนี้ 외로워 (เว-โร-วอ) มาจากคำว่า 외롭다 (เว-รบ-ตะ) แปลว่า เหงา /โดดเดี่ยว/เดียวดาย 외로워 จะเป็นคำพูดแบบเหมือนใช้กับ เพื่อน คนสนิท แปลแนวๆว่า เหงาอ่ะ เหงาจัง แต่ถ้าอยากจะบอกว่าเหงามาก เหง๊าเหงา ก็ใช้คำว่า 난 너무 외로워(요) นัน นอมู เวโรวอ(โย) - จะใส่โยก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ ก็ดูสถานการณ์เอาว่าพูดกับใครอะไรยังไง ฉันเหงามาก/ฉันเหง๊าเหงา/ ฉันโคตรเหงา (ก็แล้วแต่คนจะแปลเนอะ ) 외로워 보이네 เวโรวอ โพอีเน  ดูท่าทางเหงาๆเนอะ/ดูเหงาเนอะ/ดูเหมือนจะเหงาเนอะ 보이다 แปลว่า เห็น/มองเห็น + -네 ที่เป็นคำลงท้าย ประมาณว่า นะ/เนอะ/นะเนี่ย #ภาษาเกาหลีวันละคำ  #ภาษาเกาหลี # 한국어 #태국어

เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 2 ตอน 1 (ไวยากรณ์ -입니다/-입니까?) By แม่บ้านเกาหลี SeojinMom

สวัสดีค่า~ วันนี้เราก็มาต่อกันที่บทที่ 2 เลยนะคะ :) ใครที่ยังไม่ได้อ่านบทที่1 สามารถไปตามอ่านได้ที่นี่นะคะ เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 1 ตอน 1 (ไวยากรณ์ -이에요/예요) เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 1 ตอน 2 (ไวยากรณ์ 은/는) เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 1 ตอน 3 แบบฝึกหัด เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 1 ตอน 4 คำศัพท์ เรียนภาษาเกาหลีจากหนังสือทามุนฮวา บทที่่ 2 ตอน 1 ไวยากรณ์ -입니다 มีความหมายเหมือนกับ -이에요/예요 เป๊ะ! แต่ต่างกันที่ระดับภาษา คือ 입니다 จะมีความเป็นทางการมากกว่า 이에요/예요 เวลาใช้ก็จะไม่มีความจุกจิกน้อยกว่า เพราะ 입니다 สามารถใช้ตามหลังคำนามได้ทันที โดยไม่ต้องสนใจว่า คำนามนั้นจะมีตัวสะกด หรือไม่มีตัวสะกด ยกตัวอย่างเช่น 책입니다. -- คือหนังสือค่ะ 김은수입니다. -- คือคุณคิมอึนซูค่ะ 한국사람입니다. -- เป็นคนเกาหลีค่ะ 의자입니다. -- คือเก้าอี้ค่ะ แบบฝึกหัดหน้า 38 1) 중국 사람 (คนจีน) 저는  중국 사람입니다. 저 แปลว่า ฉัน (สุภาพกว่า 나) + 는 ตัวชี้หัวเรื่อง (กรณีนี้คือ เมื่อต้องการอธิบายอะไร) ฉันเป็นคนจีนค่ะ 2) 태국 사람 (คนไทย) 이분은 태국 사람입니다...